
นิตยสารดนตรีระดับโลกอย่าง โรลลิ่งสโตน ได้กระทำคัดเลือก "บทเพลงยอดเยี่ยม" หนึ่งร้อยเพลงของเดอะบีตเทิลส์ ตีพิมพ์เป็นหนังสือเล่มเฉพาะกิจชื่อ The Beatles 100 Greatest Songs ซึ่งยังไม่แน่ใจว่า เมืองไทย จะมีขายหรือไม่ แต่ครั้นจะพูดถึง 100 อันดับเพลง มันคงจะยืดเยื้อ ก็เลยขอคัด มา 10 อันดับเพลง สุดยอดตลอดกาล ของ The Beatles มาให้ได้รู้จักและทดลองฟังกันครับ
เริ่มกันที่ลำดับ 10 เป็นเพลงอมตะจากฝีมือการเขียนเพลงของจอร์จ แฮร์ริสัน "While My Guitar Gently Weeps" เพลงนี้มีจุดเริ่มต้นจากการที่จอร์จเลือกวลี "gently weeps" จากหนังสือ และ "สมบูรณ์แบบ" มากขึ้นเมื่อเขาชวนอีริก แคลปตัน เข้ามาร่วมเล่นกีตาร์ในเพลงนี้ด้วย และล่าสุดเพลงนี้ ถูก Santana นำมาคัพเวอร์ใหม่ ในอัลบั้มชุดล่าสุดของเขาด้วย
ลำดับ 9 ได้แก่เพลง "Come Together" แรกเริ่มเดิมที จอห์น เลนนอน เขียนเพลงนี้เพื่อสนับสนุนแคมเปญเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียของทิโมธี เลียรี ในปี 1970 แล้วต่อมา กลายเป็นเพลงสุดท้ายที่สี่เต่าทอง "ร่วม" เล่นดนตรีด้วยกันในสตูดิโอ
ลำดับ 8 เพลงนี้ฮิตกันข้ามมาหลายทศวรรษ กับความหมายเชิงปรัชญาที่ลุ่มลึก "Let It Be" คือเพลงนั้น-ที่ พอล แม็กคาร์ตนีย์ นำอารมณ์โซลในแบบอะริธา แฟรงกลิน มาใช้ บันทึกเสียงกันในห้วงเวลาที่สมาชิกเดอะบีตเทิลส์ขัดแย้ง-มึนตึงสูงสุด ซึ่งเพียงหนึ่งเดือนหลังจากนั้น เขาก็ออกมาประกาศว่า "วงแตกแล้ว"
เพลงยอดเยี่ยมลำดับ 7 ของเดอะบีตเทิลส์ Hey - Jude ในคราวนี้...อย่างที่ทราบกันดี เพลงนี้พอลเขียนให้กับจูเลียน ลูกชายวัยห้าขวบของจอห์น กับซินเธีย (ภรรยาคนแรก) แต่ตอนนั้น จอห์นกลับคิดว่าพอลพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับโยโกะ โอโนะ
ลำดับ 6 คือเพลงรักง่ายๆ แต่ซาบซึ้งเหลือเกินชื่อ "Something" ที่แต่ง-ร้องโดย จอร์จ แฮร์ริสัน และเป็นเพลงที่มีคนนำไป "ทำใหม่" มากเป็นอันดับที่ 2 ของวง เป็นรองก็แต่เพียง "Yesterday" จอห์นบอกว่า เขาไม่คาดคิดว่าเพลงนี้จะเป็น "เพลงที่ดีที่สุดในอัลบั้ม Abbey Road" ส่วนพอลกล่าวว่า "นี่คือเพลงที่ดีที่สุดที่จอร์จแต่ง"
ลำดับที่ 5 ตกเป็นของเพลง "In My Life" เเนื้อหาของเพลงนี้เกี่ยวเนื่องกับชีวิต-ประสบการณ์ส่วนตัวของจอห์น
ลำดับต่อมาเป็นเพลงของเดอะบีตเทิลส์ที่ถูกนำไปคัฟเวอร์มากที่สุด (และน่าจะเป็นเพลงของศิลปินป็อปที่ถูกนำไปคัฟเวอร์มากสุดด้วย) "Yesterday" เพลงนี้มีจุดเริ่มต้นจากคำว่า "Scrambled Eggs" ก่อนเปลี่ยนเป็น "Yesterday" ในท้ายสุด มีเกร็ดเล็กๆ ของเพลงนี้...บอกว่า จริงๆ แล้วมันจุดประกายมาจากความฝันของพอล
เพลงยอดเยี่ยมลำดับ 3 ได้แก่ "Strawberry Fields Forever" จอห์นเคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งเมื่อ นานมาแล้วว่า การเติบโตคือ "สิ่งน่าหวาดหวั่นเนื่องจากไม่มีใครผูกพันกับใคร" ทุ่งสตรอเบอรี่-คือสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูลที่เขาเติบโตขึ้นมา แสดงให้เห็นถึงภาพหลอนน่ากลัวแห่งวัยเยาว์ แต่เขาก็เอาชนะความกลัวเหล่านั้นได้ในเพลงนี้เอง
ลำดับที่ 2 "I Want to Hold Your Hand" เพลงป็อปง่ายๆ ที่ทำให้คนอเมริกันส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจกับการแต่งเพลงของเลนนอน-แม็กคาร์ตนีย์ที่แสนอัศจรรย์ เป็นจุดเริ่มต้นของกระแสบีต เทิลมาเนีย แล้วยังเป็นสิ่งที่จอร์จ มาร์ติน โปรดิวเซอร์เรียกว่า "จุดสุดยอดของเฟสแรกของพัฒนาการของเดอะบีตเทิลส์"
ในที่สุด...ก็มาถึงเพลงยอดเยี่ยมอันดับ 1 นั่นคือเพลงสุดท้ายของอัลบั้ม Sgt. Peppers Lonely Hearts Club Band : "A Day in the Life" เพลงนี้ไม่เคยถูกมองว่าเป็นงานชิ้นเยี่ยมของวงจนกระทั่งยุคเอทตี้ส์หลังการเสียชีวิตของจอห์น ความยอดเยี่ยมของเพลงนี้อยู่ที่เนื้อเพลงได้แรงบันดาลใจจากข่าวในหนังสือพิมพ์ ผนวกชีวิตส่วนตัวของจอห์น และไอเดียของพอล ในการนำเอานักดนตรีคลาสสิกเข้ามาบรรเลง สิ่งที่จอร์จ มาร์ติน บอกว่า "orchestral orgasm" (ขออนุญาตเว้นคำแปล-เนื่องจากไม่ได้อารมณ์เท่า).
ที่มา : นิตยสารโรลลิ่งสโตน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น